Doonung’s Free On Web

The Coffin โลงต่อตาย (2008)

Posted in หนังผี by doonung on มกราคม 30, 2009

โลงต่ตาย

ชื่อไทย โลงต่อตาย
ชื่ออื่นๆ Lhong Tor Tai
ประเภท Horror
วันที่เข้าฉาย 21 สิงหาคม 2551
คริส (อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) เป็นสถาปนิกหนุ่มที่กลัวความแคบอย่างรุนแรง แต่ด้วยความหวังที่จะต่อชีวิตให้กับแฟนสาว มาริโกะ (อากิ ชิบุยะ) คริส จึงยอมเข้าทำพิธีนอนโลงสะเดาะเคราะห์ให้คนรัก

ซู (คาเรน ม็อก) นักโภชนาการสาวผู้เคร่งครัดต่อการดูแลสุขภาพ ตรวจพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งปอดในระยะสุดท้าย ก่อนแต่งงานกับคู่หมั้นหนุ่ม (แอนดรูว์ เหลียน) เพียง 2 สัปดาห์ ซูหลบมาประเทศไทย และเมื่อค้นพบพิธีกรรมนี้ เธอตัดสินใจนอนโลงเพื่อต่อชะตาชีวิต

หลังจากที่ทั้ง 2 เข้าไปร่วมพิธี เหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวโดยไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ทั้งๆ ที่เริ่มต้นดูเหมือนทุกอย่างจะเรียบร้อยดี เริ่มจา

ปิดความเห็น บน The Coffin โลงต่อตาย (2008)

สุริโยไท (2001)

Posted in หนังชีวิต, หนังสงคราม by doonung on มกราคม 30, 2009

สุริโยไท

ชื่ออังกฤษ The Legend of Suriyothai
ชื่ออื่นๆ Suriyothai
ประเภท Drama / War
วันที่เข้าฉาย 8 สิงหาคม 2546
วันที่เข้าฉายครั้งแรก 17 สิงหาคม 2544

ภาพยนตร์เรื่องสุริโยไท ได้พลิกฟื้นประวัติศาสตร์อยุธยาช่วงต้น โดยลำดับเหตุการณ์แต่ครั้งรัชกาลสมเด็จพระเจ้ารามาธิบดีที่ 2 (พ.ศ.2034-2072) ก่อนมายุติลงตรงมหายุทธสงครามศึกตะเบงชเวตี้ (พ.ศ.2091) ครอบคลุมระยะเวลารวมแล้ว 57 ปี โดยประมาณ

เหตุการณ์ในรัชกาลสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 นั้นเป็นช่วงสมัยที่ราชอาณาจักรอโยธยา มีเจ้าเหนือครองหัวราชย์ถึง 2 พระองค์ หนึ่งนั้นคือสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ซึ่งทรงครองราชย์อยู่ยังราชธานีฝ่ายใต้ อันได้แก่กรุงอโยธาศรีรามเทพนคร ส่วนอีกหนึ่งนั้นเป็นพระอนุชาในสมเด็จพระรามาธิบดี ทรงพระนามว่าพระอาทิตยาครองราชย์อยู่ยังเมืองพระพิษณุโลก อันเป็นราชธานีฝ่ายเหนือ พระมหากษัตริย์ทั้งสองพระองค์ทรงสืบสายสันตติวงศ์มาแต่วงศ์สุพรรณภูมิ

ราชอาณาจักรอโยธยาครั้งนั้น หยัดยืนอยู่ได้ด้วยอาศัยกำลังของเจ้าราชนิกุล ที่สืบสายมาจากราชวงศ์สำคัญ 4 ราชวงศ์ด้วยกัน อันได้แก่ ราชวงศ์สุพรรณภูมิ ราชวงศ์อู่ทอง ราชวงศ์พระร่วงแห่งราชอาณาจักรสุโขทัยเดิม และราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราช ที่เคยเป็นใหญ่ในอาณาจักรดินแดนใต้แห่งคาบสมุทรไทย ถึงแม้ในรัชกาลสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 เจ้านายในราชวงศ์สุพรรณภูมิจะทรงครองความเป็นใหญ่ในแผ่นดินอโยธยาทั้งเหนือใต้ แต่ความมั่นคงทางอำนาจยังต้องพึ่งพิงกำลังสนับสนุนของเหล่าราชนิกุลที่เหลือ

ครั้งนั้นแผ่นดินอโยธยาฝ่ายเหนือ อันมีเมืองพระพิษณุโลกเป็นราชธานีปรากฏเจ้านายในราชวงศ์พระร่วงที่สำคัญอย่างน้อยสองพระองค์ หนึ่งคือพระสุริโยทัยผู้เป็นพระธิดาของออกญาศรีสุรินทร์ อีกผู้หนึ่งคือขุนพิเรนทรเทพเป็นพระญาติพระสุริโยทัย มีศักดิ์เป็นพระเชษฐาแต่มิได้ร่วมสายโลหิตเดียวกัน เจ้านายสายวงศ์พระร่วงทั้งสองเจริญวัยมาด้วยกัน ครั้นขึ้นวัยแรกรุ่นเป็นหนุ่มสาวต่างมีใจปฏิพัทธ์แก่กันฉันท์คนรัก

กระนั้นก็ดีพระสุริโยทัยหาได้ออกเรือนกับขุนพิเรนทรเทพไม่ เพราะพระนางจำต้องอภิเษกสมรสกับพระเฑียรราชา ผู้รั้งตำแหน่งพระเยาวราชแห่งราชวงศ์สุพรรณภูมิ พระเฑียรราชาผู้นี้เป็นโอรสในสมเด็จพระอาทิตยาผู้ครองเมืองพระพิษณุโลกอยู่ในขณะนั้น การอภิเษกสมรสระหว่างพระสุริโยทัยกับพระเฑียรราชา โดยนัยหนึ่งเป็นการกระชับไมตรีทางการเมือง ระหว่างราชนิกุลข้างสุพรรณภูมิและข้างพระร่วงให้ยั่งยืนมั่นคงขึ้น

เหตุการณ์บ้านเมืองเริ่มผันแปรเสื่อมถอย เมื่อสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 เสด็จสวรรคตในปี พ.ศ.2072 อันเป็นปีเดียวกันที่ดาวหางฮัลเลย์ปรากฏขึ้น การสวรรคตครั้งนั้นเป็นเหตุแห่งการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินทั้งฝ่ายใต้และฝ่ายเหนือ กล่าวคือพระอาทิตยาทรงเสด็จจากเมืองพระพิษณุโลกลงมาครองกรุงอโยธยา เถลิงพระนามว่าสมเด็จหน่อพุทธางกูร ส่วนราชธานีฝ่ายเหนือที่ว่างลงนั้น ทรงโปรดให้พระชัยราชา ผู้เป็นราชโอรสในสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ขึ้นไปครองแทน

ครั้งนั้นพระเฑียรราชาผู้ราชโอรสพระอาทิตยาหรือสมเด็จหน่อพุทธางกูร จำต้องนำพระสุริโยทัยโดยเสด็จพระราชบิดาลงมาประทับยังวังชัยในกรุงศรีอยุธยา พระเฑียรราชายังคงรั้งตำแหน่งพระเยาวราชดังเดิม

การสืบมาได้ปรากฏไข้ทรพิษระบาดหนัก เป็นเหตุให้พระหน่อพุทธางกูรเสด็จสวรรคตเพราะภัยร้ายนั้น บ้านเมืองจึงเกิดเป็นทุรยศ ด้วยพระรัฎฐาธิราชกุมารพระราชโอรสในสมเด็จหน่อพุทธางกูรผู้สืบราชสมบัติต่อมานั้น มีพระชนมายุเพียง 5 พรรษา เป็นเหตุให้กิจการงานเมืองต้องตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือของเจ้าพระยายมราช ผู้มีศักดิ์เป็นพระอัครชายา ผู้ให้กำเนิดพระรัฎฐาธิราช เจ้าพระยายมราชเป็นคนคด ฉ้อราษฎร์บังหลวงจนไพร่บ้านเมืองเดือดร้อนกันไปทั่ว

ขณะที่แผ่นดินอยุธยาลุกเป็นไฟนั้น แผ่นดินพุกามประเทศฝ่ายพม่าได้ปรากฏกษัตริย์หนุ่มผู้เข้มแข็งนามว่าตะเบงชเวตี้ กษัตริย์พม่าพระองค์นี้ได้รวบรวมบ้านเมืองขึ้นเป็นปึกแผ่นได้สำเร็จ พระชัยราชาผู้ครองราชธานีฝ่ายเหนือเห็นมิเป็นการ จึงนำกำลังแต่เมืองเหนือลงมาปราบยุคเข็ญในพระนครหลวง และปราบดาภิเษกสถาปนาพระองค์เองขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์องค์ใหม่แทนที่พระรัฎฐาธิราช ซึ่งถูกสำเร็จโทษไปด้วย เพราะพระชัยราชามิทรงประสงค์จะละไว้ให้เป็นเสี้ยนหนาม

ถึงแม้ราชอาณาจักรอยุธยาจะมีอันผลัดเปลี่ยนแผ่นดินติดต่อกันมาถึง 4 รัชกาล แต่อำนาจนั้นยังคงตกอยู่กับเจ้านายในราชวงศ์สุพรรณภูมิดังเดิม

สมเด็จพระชัยราชาธิราชเจ้าทรงเป็นกษัตริย์นักรบ ในรัชกาลของพระองค์ได้ทรงทำศึกมีชัยเหนือพม่าที่เมืองเชียงกราน อันเป็นเมืองในขอบขัณฑสีมาอโยธยาด้านฝั่งตะวันตก พระองค์ยังทรงนำทัพขึ้นไปรบถึงเชียงใหม่ ขณะเมื่อพระองค์ทรงออกไปรบในแดนต่างๆ นั้น จะทรงสถาปนาพระเฑียรราชาขึ้นที่อุปราช ดูแลราชการแผ่นดินอโยธยาต่างพระเนตรพระกรรณเสมอมา

ต่อมาพระชัยราชาธิราชทรงได้เจ้านายข้างวงศ์อู่ทองมาเป็นพระสนมเอก มีพระนามปรากฏในพระราชพงศาวดารว่าท้าวศรีสุดาจันทร์ ท้าวศรีสุดาจันทร์ไม่เพียงถือโอกาสในคราวที่พระสวามีติดศึกต่างแดนลอบมีสัมพันธ์สวาทกับพันบุตรศรีเทพ ผู้เป็นบุตรเจ้าเมืองศรีเทพ ซึ่งเป็นเจ้านายสายอู่ทอง พระนางยังคบคิดกับชู้รัก ซึ่งภายหลังได้รับอวยยศขึ้นเป็นขุนชินราช ลอบวางยาพิษพระชัยราชาธิราช ด้วยมุ่งหวังชิงบัลลังก์อโยธยาคืนมาจากเจ้านายสายสุพรรณภูมิ

ท้าวศรีสุดาจันทร์และขุนชินราชยังลอบวางยาพิษพระยอดฟ้า พระราชโอรสในพระชัยราชาธิราช ภายหลังจากที่พระองค์เสวยราชสมบัติ สืบต่อจากพระราชบิดาได้ไม่นาน (ไม่เกิน 2 ขวบปี พ.ศ.2089-2091) ท้ายที่สุดท้าวศรีสุดาจันทร์ได้สถาปนาขุนชินราชขึ้นเป็นกษัตริย์อโยธยา เถลิงพระนามว่าขุนวรวงศาธิราช นับเป็นกษัตริย์พระองค์แรกและพระองค์เดียวแห่งสายราชนิกุลอู่ทองที่ได้กลับขึ้นมาเป็นใหญ่อีกครั้ง หลังจากที่สูญเสียอำนาจให้กับเจ้านายฝ่ายสุพรรณภูมิไปเนิ่นนานปี

ในช่วงการผลัดเปลี่ยนอำนาจ นับแต่พระชัยราชาถูกลอบปลงพระชนม์ พระเฑียรราชาผู้รั้งตำแหน่งอุปราชและผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน จำต้องหลบลี้ราชภัยด้วยการออกบวช ข้างพระสุริโยทัยนั้นไม่เพียงแต่ต้องคอยระแวดระวังภัยให้พระสวามี พระราชโอรสและพระราชธิดา ซึ่งต่างยังทรงประทับอยู่ในวังชัย แต่ยังทรงพยายามคิดการโค่นล้มอำนาจขุนวรวงศาและแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์เป็นการลับ เพื่อพลิกฟื้นบ้านเมืองให้กลับคืนเป็นปกติสุขตามเดิม พระนางได้ลอบติดต่อขุนพิเรนทรเทพ ซึ่งพระนางเคยมีสัมพันธ์ใกล้ชิดมาแต่วัยเยาว์ จนท้ายที่สุดสามารถเหนี่ยวรั้งให้ขุนพิเรนทรเทพรวมกำลังพลฝ่ายเหนือสมทบกับขุนอินทรเทพ หมื่นราชเสน่หานอกราชการ และหลวงศรียศ โค่นอำนาจขุนวรวงศาได้สำเร็จ

คณะผู้ก่อการได้ร่วมกันสถาปนาพระเฑียรราชาขึ้นเป็นกษัตริย์อโยธยา เถลิงพระนามสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ เป็นเหตุให้อำนาจหวนกลับมาตกอยู่ในมือเจ้านายราชวงศ์สุพรรณภูมิอีกครั้งหนึ่ง

ข่าวการแย่งชิงอำนาจกันภายในราชอาณาจักรอโยธยา ล่วงรู้ไปถึงหูพระเจ้าตะเบงชเวตี้ ซึ่งขณะนั้นได้ทรงรวบรวมแผ่นดินพุกามขึ้นเป็นปึกแผ่นมั่นคงแล้ว และได้ย้ายราชธานีจากเมืองตองอูลงมาประทับยังกรุงหงสาวดี ซึ่งเป็นราชธานีเดิมของกษัตริย์มอญ พระเจ้าตะเบงชเวตี้เห็นได้จังหวะเหมาะ จึงรวบรวมไพร่พลเมืองตองอู เมืองแปร เมืองหงสาวดี และหัวเมืองมอญน้อยใหญ่ ผสมทหารโปรตุเกส ผู้ชำนาญการใช้ปืนไฟ จัดเป็นกองทัพใหญ่ ยกเข้ามาทางด้านพระเจดีย์สามองค์ จนสามารถนำกำลังเข้าล้อมกรุงศรีอยุธยาไว้ได้สำเร็จ

ศึกพม่ารามัญครั้งนั้นใหญ่หลวงนัก สมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงนำกำลังออกปะทะพม่า จนรบกันเป็นโกลาหลในทุ่งมะขามหย่อง กษัตริย์อโยธยาทรงกระทำคชยุทธด้วยตะโดธรรมราชาเจ้าเมืองแปร ครั้งนั้นช้างพระที่นั่งเสียหลักหันหลังหนีช้างข้าศึก พระสุริโยทัยทรงมีพระกตัญญูภาพขับพระคชาธารพลายทรงตะวันเข้าขวางช้างพระเจ้าแปร และทรงต่อรบป้องกันพระสวามีจนสิ้นพระชนม์ ภาพยนตร์ได้มายุติลงตรงเหตุการณ์ครั้งสำคัญครั้งนั้นในประวัติศาสตร์

ภาพยนตร์สุริโยไทไม่เพียงชี้มุ่งชัดถึงพิบัติภัย อันเกิดแต่การแตกสามัคคีในหมู่คนไทย แต่ยังได้เปิดมิติประวัติศาสตร์ให้เห็นถึงบทบาทของสตรีสูงศักดิ์ในราชสำนัก ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญไม่แพ้ชายในการขับเคลื่อนกงล้อประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันให้เกิดเหตุพลิกผันผลัดแผ่นดิน ไปจนถึงการพลีชีพกลางสมรภูมิศึก เพื่อรักษาไว้ซึ่งเอกราชของราชอาณาจักร

SAHARA พิชิตขุมทรัพย์หมื่นฟาเรนไฮต์

Posted in หนังบู๊, หนังผจญภัย by doonung on มกราคม 27, 2009

sahara

SAHARA พิชิตขุมทรัพย์หมื่นฟาเรนไฮต์

เนื้อเรื่องย่อ

เมื่อเจ้าแห่งนักสำรวจ เดิร์ก พิตต์ (แมทธิว แม็คคอนนาเฮย์) ได้พบเหรียญในตำนาน ที่เชื่อมโยงถึงตำนานทางประวัติศาสตร์เรื่องหนึ่ง เขาได้ออกผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อออกตามล่าหาสมบัติ ในภูมิประเทศที่อันตรายที่สุดของแอฟริกาตะวันตก เมื่อพวกเขาออกค้นหาสิ่งที่คนท้องถิ่นเรียกว่า “เรือแห่งความตาย” ซึ่งก็คือเรือรบสมัยสงครามกลางเมืองที่สูญหายไปนาน และเป็นเรือที่คอยปกป้องสินค้าลึกลับอย่างหนึ่ง เดิร์กกับ อัล เกียร์ดิโน่ (สตีฟ แซห์น) คู่ซี้ขี้เล่นของเขาได้พบกับ ด็อกเตอร์เอวา โรฮาส์ (เพเนโลปี้ ครูซ) ด็อกเตอร์สาวแสนสวยสุดเก่ง ผู้เชื่อว่าขุมทรัพย์ที่ถูกเก็บซ่อนไว้นี้ อาจเกี่ยวข้องกับปัญหาที่อาจคุกคามต่อโลกรอบตัวพวกเธอ เดิร์ก, อัล และเอวา ได้ออกตามหาเรือที่ไม่มีใครคิดว่ามีอยู่จริง พวกเขาต้องพึ่งพิงทั้งสมอง และความกล้าบ้าบิ่นของพวกเขา เพื่อเอาชนะบรรดาเจ้าพ่อที่เป็นตัวอันตราย ต้องเอาชีวิตรอดพ้นจากสภาพภูมิประเทศที่คุกคามต่อชีวิต และเจาะลึกให้ถึงก้นบึ้งของปริศนาทั้งปวง…

http://video.mthai.com/player.php?id=23M1218719233M0

http://video.mthai.com/player.php?id=23M1218721387M0

http://video.mthai.com/player.php?id=23M1218723291M0

http://video.mthai.com/player.php?id=23M1218725231M0

http://video.mthai.com/player.php?id=23M1218727447M0

Death Note The Last Name : อวสานสมมุดโน้ตมรณะ

Posted in การ์ตูน, หนังสืบสวนสอบสวน by doonung on มกราคม 22, 2009

deathnote

Death Note The Last Name อวสาน สมุดมรณะเปิดเรื่องมาด้วยการเกริ่นถึงเนื้อหาภาคแรกคร่าวๆ รวมทั้งยังสามารถเชื่อมเหตุการณ์ตอนท้ายของภาคแรกและตอนต้นของภาคหลังนี้ได้ อย่างลงตัว… นั่นคือหลังจากที่ “L” หรือ “ริวซากิ” ได้ร่วมกับกองสืบสวนญี่ปุ่นซึ่งมีบิดาของ “ไลท์” หรือ “คิระ” ร่วม ทีมอยู่ด้วยสืบสวนหาตัวคิระที่ได้ทำการคร่าชีวิตอาชญากรมากมายมาลงโทษให้ได้ จนกระทั่งริวซากิเกิดความสงสัยในตัวของผู้ต้องสงสัยอย่างไลท์มากที่สุดอยู่ นั้น ไลท์ก็ได้ทำการหลอกใช้ยมทูตติงต๊องอย่าง “ลุค” เพื่อให้ร่วมมือกับตนเองอยู่เล็กๆ โดยใช้แอปเปิ้ลของโปรดของลุคเป็นเหยื่อล่อ จนทำให้ริวซากิและทีมสืบสวนไม่สามารถจับได้

ดัง นั้นลำพังแค่ความสงสัยของริวซากิเพียงคนเดียวแถมยังไร้หลักฐานพิสูจน์จึงไม่ สามารถเอาผิดอะไรได้ หนำซ้ำคิระยังสร้างสถานการณ์ให้ตัวเองสามารถแทรกเข้าสู่ทีมสืบสวนในฐานะของ ไลท์ผู้สูญเสียแฟนสาวและต้องการแก้แค้นได้โดยที่ริวซากิไม่สามารถปฏิเสธได้ อีกต่างหาก เท่ากับว่าแผนการที่จะกำจัดริวซากิให้ได้ของคิระมากกว่าแผนการเปิดเผยตัวคิ ระของริวซากิ

เท่านั้นยังไม่พอ… “มิสะมิสะ” ดาราไอดอลสาวผู้ซึ่งหลงไหลในตัวคิระจากการที่คิระทำการฆ่าฆาตกรที่ฆ่าพ่อแม่ของเธอให้โดยบังเอิญนั้นได้ครอบครองสมุดโน้ตเล่มที่ 2 แถม ยังเข้าสวามิภักดิ์ต่อคิระในฐานะของแฟนสาวหรือทาสผู้ซื่อสัตย์และจงรักภักดี อีกด้วย จึงกลายเป็นว่าฝ่ายคิระนอกจากจะมียมทูตลุคและมิสะแล้วก็ยังมี “เรน” ยมทูตอีกตนหนึ่งเป็นพวกอีก ที่สำคัญ… ความรักที่มิสะมีให้กับคิระหรือไลท์นั้นมากพอที่จะทำให้เธอยอมแลกอายุขัยที่เหลืออยู่กับ “ดวงตายมทูต” เพื่อให้สามารถมองเห็นชื่อนามสกุลและอายุขัยของมนุษย์ได้ ทั้งนี้ก็เพื่อจะนำมาใช้ช่วยคิระจัดการกำจัดริวซากิให้ได้นั่นเอง…
การต่อสู้เชือดเฉือนกันระหว่าง 2 อัจฉริยะด้านเกือบมืดอย่างคิระและพรรคพวกอีก 1 คนพร้อมยมทูต 2 ตัวกับอัจฉริยะด้านเกือบสว่างอย่าง L ผู้ ซึ่งแม้แต่กองสืบสวนญี่ปุ่นซึ่งเป็นฝ่ายเดียวกันยังไม่เชื่อใจและไม่เชื่อใน ความสามารถเนื่องจากถูกคิระปั่นหัวนั้นจะลงเอยอย่างไร..!?