สินเจริญ เชิญเเขก ตอน โน้ส อุดม เดี่ยว7 live in Sydney
พอดีเห็นแล้วว่าสนุกมาเลยเอาฝากทุกๆคน เลย
พระ เด็ก เสือ ไก่ วอก Magnificent Five
ชื่ออื่นๆ : Magnificent Five
ชื่อไทย : พระ – เด็ก – เสือ – ไก่ – วอก
ผู้กำกับ : บัณฑิต ฤทธิ์ถกล
ผู้แต่ง : บัณฑิต ฤทธิ์ถกล
วันเข้าฉาย : 20/04/2006
ประเภท : Action, Adventure, Comedy
ความยาว :
เรท :
สถานที่ถ่ายทำ : Thailand
ภาษา : ไทย
เนื้อเรื่องย่อ นับย้อนหลังไป 100ปี พอดี ตุลาคม 2448 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงประกาศเลิกทาส วันเดียวกันนั้นเอง เด็กชายหญิงชนบทผู้น่าสงสารจำนวน 8คน อันเป็นทาสขัดดอกของพ่อใหญ่ภูนายเงินและพ่อค้าของป่าผู้ยิ่งใหญ่แห่งบ้านชายคง ได้ถูกขายให้แก่โยนสันพ่อค้าชาวอังกฤษที่มากว้านซื้อไม้หอมและป่าสมุนไพรต่างๆ เตรียมขนไปขึ้นเรือกำปั่น โดยไม่ได้รับการยินยอมจากพ่อแม่ของเด็กๆ ชาวไร่ชาวนาผู้ยากจน
เมื่อไม่สามารถทานอิทธิพลอันยิ่งใหญ่ของพ่อใหญ่ภู บรรดาชาวไร่ชาวนาผู้ยากไร้เหล่านั้น จึงต้องรวบรวมเงินทองของมีค่าอันน้อยนิดว่าจ้างพวกเร่ร่อนนอกกฎหมายจำนวน 5คน ให้ออกติดตามไปช่วยลูกหลานของตนประกอบด้วย
อดีตพระทองสุก(โน้ต เชิญยิ้ม)ผู้ถูกทางการติดตามตัว เพราะต้องคดีศาลกงสุล ทำร้ายฝรั่งที่เข้าไปอาละวาดในวัดเมืองบางกอก จึงต้องสึกหาลาเพศและระเห็จหนีสู่ชายแดนไกล
สำลี (โก๊ะตี๋ อารามบอย)เด็กโข่งผู้ชำนาญการประดิษฐ์ดอกไม้ไฟตะไลเพลิง ทว่ายังชีพอยู่ด้วยการลักเล็กขโมยน้อย
เสือ (เจษฎาภรณ์ ผลดี)อดีตทหารพเนจรผู้พิสมัยการนอนและการดื่ม
ระกา(พอลล่า เทลเลอร์)จอมขโมยหญิงผู้ผ่านการเร่ร่อนในต่างแดนมาแล้วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ และมีความหลังซึ่งไม่ยอมปริปากบอกใคร
วอก (สราวุฒิ พุ่มทอง)หมอยาพเนจรที่เคยแต่รักษาให้ใครตายเร็วขึ้น ด้วยสูตรยาผสมเองตามอารมณ์อันบรรเจิดของเจ้าตัว
ขณะที่ต่างคนต่างมีนิสัยใจคอแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้ง 5ต้องเดินทางมุ่งติดตามขบวนขนส่งสินค้าของพวกลูกเรือต่างชาติ พร้อมอาวุธทรงอนุภาพและปืนใหญ่ที่รออยู่ ผ่านดินแดนเถื่อนรกร้างขอบพระราชอาณาเขต ซึ่งมีชนเผ่าต่างๆ และพวกหนีกฎหมายเร่ร่อนอาศัยอยู่ เพื่อหาทางช่วยเหลือเด็กๆ ผู้น่าสงสารเหล่านั้นกลับมาให้ได้
Death Note The Last Name : อวสานสมมุดโน้ตมรณะ
Death Note The Last Name อวสาน สมุดมรณะเปิดเรื่องมาด้วยการเกริ่นถึงเนื้อหาภาคแรกคร่าวๆ รวมทั้งยังสามารถเชื่อมเหตุการณ์ตอนท้ายของภาคแรกและตอนต้นของภาคหลังนี้ได้ อย่างลงตัว… นั่นคือหลังจากที่ “L” หรือ “ริวซากิ” ได้ร่วมกับกองสืบสวนญี่ปุ่นซึ่งมีบิดาของ “ไลท์” หรือ “คิระ” ร่วม ทีมอยู่ด้วยสืบสวนหาตัวคิระที่ได้ทำการคร่าชีวิตอาชญากรมากมายมาลงโทษให้ได้ จนกระทั่งริวซากิเกิดความสงสัยในตัวของผู้ต้องสงสัยอย่างไลท์มากที่สุดอยู่ นั้น ไลท์ก็ได้ทำการหลอกใช้ยมทูตติงต๊องอย่าง “ลุค” เพื่อให้ร่วมมือกับตนเองอยู่เล็กๆ โดยใช้แอปเปิ้ลของโปรดของลุคเป็นเหยื่อล่อ จนทำให้ริวซากิและทีมสืบสวนไม่สามารถจับได้
ดัง นั้นลำพังแค่ความสงสัยของริวซากิเพียงคนเดียวแถมยังไร้หลักฐานพิสูจน์จึงไม่ สามารถเอาผิดอะไรได้ หนำซ้ำคิระยังสร้างสถานการณ์ให้ตัวเองสามารถแทรกเข้าสู่ทีมสืบสวนในฐานะของ ไลท์ผู้สูญเสียแฟนสาวและต้องการแก้แค้นได้โดยที่ริวซากิไม่สามารถปฏิเสธได้ อีกต่างหาก เท่ากับว่าแผนการที่จะกำจัดริวซากิให้ได้ของคิระมากกว่าแผนการเปิดเผยตัวคิ ระของริวซากิ
เท่านั้นยังไม่พอ… “มิสะมิสะ” ดาราไอดอลสาวผู้ซึ่งหลงไหลในตัวคิระจากการที่คิระทำการฆ่าฆาตกรที่ฆ่าพ่อแม่ของเธอให้โดยบังเอิญนั้นได้ครอบครองสมุดโน้ตเล่มที่ 2 แถม ยังเข้าสวามิภักดิ์ต่อคิระในฐานะของแฟนสาวหรือทาสผู้ซื่อสัตย์และจงรักภักดี อีกด้วย จึงกลายเป็นว่าฝ่ายคิระนอกจากจะมียมทูตลุคและมิสะแล้วก็ยังมี “เรน” ยมทูตอีกตนหนึ่งเป็นพวกอีก ที่สำคัญ… ความรักที่มิสะมีให้กับคิระหรือไลท์นั้นมากพอที่จะทำให้เธอยอมแลกอายุขัยที่เหลืออยู่กับ “ดวงตายมทูต” เพื่อให้สามารถมองเห็นชื่อนามสกุลและอายุขัยของมนุษย์ได้ ทั้งนี้ก็เพื่อจะนำมาใช้ช่วยคิระจัดการกำจัดริวซากิให้ได้นั่นเอง…
การต่อสู้เชือดเฉือนกันระหว่าง 2 อัจฉริยะด้านเกือบมืดอย่างคิระและพรรคพวกอีก 1 คนพร้อมยมทูต 2 ตัวกับอัจฉริยะด้านเกือบสว่างอย่าง L ผู้ ซึ่งแม้แต่กองสืบสวนญี่ปุ่นซึ่งเป็นฝ่ายเดียวกันยังไม่เชื่อใจและไม่เชื่อใน ความสามารถเนื่องจากถูกคิระปั่นหัวนั้นจะลงเอยอย่างไร..!?
Death Note I : สมุดโน้ตกระชากวิญญาน
เนื้อเรื่อง
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มด้วยฉากการตายด้วยโรคหัวใจวายของอาชญากรที่ถูกหมาย จับหรืออยู่ในที่คุมขัง ซึ่งทางการสาธารณสุขก็ตั้งสมมุติฐานว่าน่าจะเกิดจากเชื้อโรคที่ไม่ทราบว่า อะไรกันแน่ แต่ในอีกด้านหนึ่งก็สร้างกระแสให้แก่ประชาชนและเรียกคนที่ฆ่าอาชญากรเหล่า นี้ว่า “คิระ” ซึ่งมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
ย้อนกลับไปเมื่อ 1 เดือนก่อน ยางามิ ไลท์ นักเรียนมหาวิทยาลัย ได้พบว่าระบบกฎหมายและความยุติธรรมต่างๆ กลับไม่เป็นไปอย่างที่คิด อาชญากรกลับลอยนวลไปได้ทั้งๆ ที่กระทำผิด และในระหว่างทางเขาเดินกลับบ้านนั้น ไลท์ก็ได้พบกับสมุดสีดำเล่มหนึ่งกลางถนน และด้านบนมีคำเขียนว่า “Death Note” และในหนังสือเล่มนั้นเขียนว่า “ใครก็ตามที่ถูกเขียนชื่อในสมุดเล่มนี้จะต้องตาย” ไลท์จึงได้เขียนชื่อของอาชญากรคนหนึ่งลงไป ในวันรุ่งขึ้น ไลท์ก็พบว่าอาชญากรคนที่ถูกเขียนชื่อนั้นได้เสียชีวิตแล้วด้วยอาการหัวใจวาย หลังจากที่เขาฆ่าผู้ต้องหาคนที่สองไม่นาน เขาก็ได้พบกับยมทูตชื่อ “ลุค” โดยมาบอกว่า “ตอนนี้ไลท์ได้เป็นเจ้าของเดธโน๊ตแล้ว แต่ถ้าไลท์ไม่ต้องการเดธโน้ต ก็ส่งต่อคนอื่น แต่ก็จะถูกลบความทรงจำเกี่ยวกับเดธโน๊ตทั้งหมด” ทำให้ไลท์ต้องการใช้เดธโน้ตในการฆ่าพวกอาชญากรโดยหวังให้โลกนี้ปราศจากความ อยุติธรรม
หลังจากนั้น 4 เดือน กรมตำรวจก็ยังหาข้อสรุปการตายของอาชญากรได้ แต่หัวหน้ากองตำรวจโซอิจิโร่ ยางามิก็ไม่ต้องการให้ผู้ต้องหา (คิระ) กระทำการฆ่าคนต่อไปอีก เขาจึงไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อทำการติดต่อกับอธิบดี แต่เมื่อไปถึงผู้กองยางามิก็ได้พบกับวาตาริ ซึ่งเขาสามารถติดต่อ “แอล”(L)ซึ่งเป็นนักสืบที่แม้แต่คดียากๆ ก็สามารถทำได้ และเป็นไพ่ตายสุดท้ายของตำรวจ วาตาริจึงได้เปิดข้อความเสียงให้ผู้กองยางามิและอธิบดีฟัง และแอลได้สรุปว่าการตายที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นการตายที่ผิดธรรมชาติ และคนร้าย(คิระ)ทำการลงมือทำคนเดียว อธิบดีจึงแต่งตั้งให้ผู้กองยางามิเป็นหัวหน้าการสืบสวนเรื่องนี้
หลังจากนั้นไม่นานก็มีการถ่ายทอดสดจากองค์กรตำรวจสากล โดยคนที่ออกมาพูดนั้นอ้างตัวว่าตนชื่อ “ลินด์ แอล เทยเลอร์ ฉายาว่า แอล” โดยเขาออกมาประณามถึงการกระทำของคิระในด้านต่างๆ ทำให้ไลท์ไม่พอใจและเขียนชื่อของเขาลงไปในเดธโน้ต ทำให้เขาหัวใจวายตายคาโทรทัศน์ แต่ก็มีการตัดภาพพร้อมเสียงของ “แอล” ตัวจริง โดย “แอล” กล่าวว่า “เราจะจับนายให้ได้ โทษนายมีสถานเดียวคือประหารเท่านั้น… เพราะชั้นคือความถูกต้อง” และเช่นกัน เรื่องของแอลถูกตีลงหนังสือพิมพ์ในด้านต่างๆ นานา
ณ กรมตำรวจ ทีมสอบสวนได้เสนอแอลถึงระยะเวลาการตายในแต่ละเวลา ซึ่งแอลสามารถสรุปออกมาว่าระยะเวลาการตายนั้นเข้ากับตารางเวลาเรียนของเด็ก มหาวิทยาลัย แต่ไลท์ก็ได้แอบดูฐานข้อมูลตำรวจและได้ใช้เดธโน้ตกำหนดเวลาตายใหม่ ทำให้ทางแอลรู้ว่า “คิระอาจจะแฝงตัวอยู่ในกลุ่มตำรวจก็ได้”
หลายวันต่อมาไลท์ก็ถูกชายคนหนึ่งสะกดรอยตาม หลังจากเขากลับมาถึงบ้านลุคก็ได้เสนอไลท์ถึง “ดวงตายมทูต” ซึ่งสามารถมองเห็นชื่อคนและอายุขัยของคนโดยการมองแต่ไลท์ปฏิเสธข้อเสนอ และก็ได้อ่านกฎของเดธโน้ตโดยมีข้อหนึ่งกล่าวว่าสามารถเขียนสาเหตุการตายหลัง ชื่อของคนที่เขียนได้ เขาจึงลองทดสอบเดธโน้ตโดยการเขียนสาเหตุการตายของนักโทษ 3 คนลงไปในเดธโน้ต โดยคนหนึ่งกรีดนิ้วตัวเองเขียนเป็นดาวหกแฉก คนที่สองเขียนจดหมายลาตายไว้ คนที่สามหนีออกมาจากห้องขังแล้วตายในห้องน้ำ ทำให้แอลรู้ว่าคิระพยายามจะทดสอบอะไรบางอย่าง
ในวันต่อมาขณะที่ไลท์ขึ้นรถเมล์กับชิโอริ เพื่อนสาวของเขา ก็มีคนที่สะกดรอยไลท์ขึ้นมาด้วย แต่หลังจากนั้นก็มีโจรปล้นธนาคารขึ้นมายึดรถไว้ ในระหว่างนั้นคนที่สะกดรอยตามไลท์จึงเปิดเผยชื่อว่าเขาชื่อ เรย์ อิวามัตสึ เป็นเอฟบีไอ ซึ่งไลท์ได้ใช้อุบาย โดยทำเศษกระดาษเดธโน้ตหล่น และเมื่อคนร้ายจับเศษกระดาษทำให้เขาเห็นยมทูต คนร้ายจึงหนีลงจากรถและถูกรถชนเสียชีวิต โดยเรย์ อิวามัตสึหารู้ไม่ว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่การทดสอบความสามารถของเด ธโน้ตเท่านั้น
หนึ่งวันให้หลัง ไลท์ก็ลองที่จะฆ่าเอฟบีไอทุกคนผ่านเรย์ อิวามัตสึ เรย์ได้ปฏิเสธคู่หมั้นของเขา (นาโอมิ มิโซระ) ว่าเขามีธุระทั้งที่ทั้งคู่เตรียมพร้อมที่จะแต่งงาน เรย์ได้ขึ้นรถไฟและพบซองซึ่งมีเครื่องติดต่อสื่อสารโดยให้ติดต่อกับคิระ โดยให้เรย์เขียนชื่อเอฟบีไอที่เข้ามาสืบสวนทุกคนในกระดาษที่อยู่ในซอง และเมื่อเขาก้าวออกมาจากรถไฟไม่กี่ก้าว เขาก็หัวใจวายทันที แต่ภรรยาเขาก็มาเห็นเข้าและรู้ว่าเขาตายด้วยฝีมือคิระ ทางกรมตำรวจก็ได้รู้เรื่องนี้ทำให้ตำรวจที่กำลังทำคดีนี้อยู่ในความกลัว ทำให้หลายคนของถอนตัวจะคดีนี้ไปโดยเหลือตำรวจเพียง 6 คนเท่านั้น โดยวาตาริจะพาพวกเขาไปพบแอลด้วยตัวเอง เมื่อมาถึงแอลก็บอกแก่ผู้กองว่าหลังจากนี้ห้ามเปิดเผยชื่อของตนเองต่อคนภาย นอกเด็ดขาด และสรุปเรื่องราวต่างๆโดยละเอียด ในอีกด้านหนึ่งนาโอมิก็กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับคดีปล้นรถเมล์ที่ผ่านมาเพื่อ โยงไปถึงคิระ ในคืนวันนั้นแอลได้ดูวิดีโอจากกล้องวงจรปิดของสถานีรถไฟและพอที่จะจำกัดราย ชื่ออกมาได้ โดยมีครอบครัวหัวหน้าและรองหัวหน้าที่จะเป็นตกเป็นผู้ต้องสงสัย โดยให้ติดกล้องให้บ้านของผอ. และผู้ช่วยเป็นเวลา 7 วัน เพื่อหาตัวคิระ
นาโอมิก็ได้มาพบกับไลท์ทั้งบอกว่า “ชั้นรู้ว่าคุณคือคิระ ไลท์ ยางามิ” แต่เนื่องจากนาโอมิบอกชื่อปลอมแก่ไลท์ ไลท์จึงไม่สามารถฆ่านาโอมิได้ เมื่อไลท์กลับมาถึงบ้านก็พบว่ามีคนแอบเข้าไปห้องของเขา ทำให้ไลท์รู้ทันทีว่ามีคนจับตาดูอยู่ ถึงแม้จะผ่านไปหลายวันแอลก็ไม่พบสิ่งผิดสังเกตจากกล้องวงจรปิดแต่อย่างใด แอลสั่งให้วาตาริเอากล้องออกมาจากบ้านพวกเขาแต่แอลก็ยังสงสัยในตัวไลท์อยู่
วันรุ่งขึ้นนาโอมิก็โทรมาหาแอลว่า “นี่แอล ฉันจะพิสูจน์ให้คุณเห็นว่า… ไลท์ ยางามิ คนนี้ล่ะก็คือคิระตัวจริง โดยใช้ชีวิตชั้นเป็นเดิมพัน” โดยนาโอมิได้จับชิโอริแฟนสาวของไลท์เป็นตัวประกัน และขณะที้นาโอมิเผลอ ชิโอริจึงรีบวิ่งไปหาไลท์ นาโอมิจึงยิงไปที่ชิโอริจนเสียชีวิต และนาโอมิก็ฆ่าตัวตายตาม แต่ทีมสอบสวนหารู้ไม่ว่าทั้งหมดนี้เกิดจากผลของเดธโน้ตทั้งหมดซึ่งไลท์ทำ เพื่อจะได้เข้าทีมสอบสวนและฆ่าแอลซะ และเหตุผลที่ไลท์สามารถรู้ชื่อของนาโอมิได้เนื่องจากเธอบอกว่าเธอเป็นคู่ หมั้นของเรย์ ทำให้ไลท์รู้ว่าเธอกับเรย์เป็นคู่หมั้นที่จะแต่งงาน ไลท์ไปดูรายชื่อของคู่แต่งงานในโบสถ์ทำให้สามารถรู้ชื่อจริงของเธอได้ ตอนสุดท้ายลุคถามไลท์ว่า “ชิโอริรักนายจากใจจริง นายไม่รักชิโอริบ้างหรือไง”‘ ไลท์ได้เพียงแต่ตอบว่า “ชั้นไม่รู้” ในอีกด้านหนึ่งอานาเมะ มิสะก็กำลังหนีจากผู้ช่วยผู้กำกับที่กำลังจะฆ่าเธอ แต่อยู่ๆ เขาก็หัวใจวายและก็มีสมุดสีดำเล่มหนึ่งตกลงมา
สักครู่ผู้กองยางามิก็นำรถมารับไลท์ และไลท์ได้ขอร้องต่อพ่อให้ตนได้เข้าทีมสอบสวน แต่อยู่ๆ แอลก็ปรากฏตัวพร้อมพูดว่า “ยินดีต้อนรับ สวัสดีครับ ผมชื่อแอลนะ ขอยืมสมองคุณมาช่วยงานหน่อยนะ เราจะช่วยกัน มาจับคิระด้วยกันเถอะ” ผู้กองยางามิกล่าวทิ้งท้ายแก่แอลว่าว่า “ก่อนจะพูดอะไร เธอควรจะขอโทษเขา”
Death Note I : สมุดโน้ตกระชากวิญญาน [1/4]
Death Note I : สมุดโน้ตกระชากวิญญาน [2/4]
Death Note I : สมุดโน้ตกระชากวิญญาน [3/4]
Death Note I : สมุดโน้ตกระชากวิญญาน [4/4]
leave a comment